วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

113192905113192905 ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ 113192905113192905


ชื่อ นางสาวบุษราคัม  กำพุฒกลาง
ชื่อเล่น มะปราง
ตำแหน่ง ครูอัตราจ้าง

โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1

113192905113192905113192905113192905113192905113192905113192905

วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Week 9

 สัปดาห์ที่ 1  


〉ลักษณะของกิจกรรม

1. เรียนรู้การสร้าง Blog ของตนเอง ในการแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
2. รู้ประโยชน์ของ Google และการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ
3. ได้เรียนรู้การสร้าง mind map จาก Application ใน Google web store
4. ได้เรียนรู้วิธีการ Capture Screen ผ่านโปรแกรม Snipping Tool

〉ทักษะ

1. ได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ฝึกความกล้าแสดงออก
2. ได้ฝึกษะการใช้โปรแกรมต่างๆ ในระบบปฏิบัติการ Windows เช่น Snipping Tool
3. ได้ฝึกทักษะการคิดออกแบบ การทำ my mipping โดยใช้แอพพลิเคชั่นใน Google Appication
4. ได้ฝึกทักษะความเพียรพยายาม ความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการผลิตสิ่งต่างๆ ให้ชิ้นงานออกมาสมบูรณ์แบบ
5. ได้ฝึกสร้างบล็อกของตนเอง โดยใช้ Blog ซึ่งคือเว็บไซต์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเพจ หรือพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละบุคคล บนโลกอินเทอร์เน็ต


〉ผลการเรียนรู้

           จากการได้เรียนวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาในสัปดาห์ที่ 1 ได้เรียนรู้นวัตกรรมต่างๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านระบบปฎิบัติการ Windows การท่องโลกอินเทอร์เน็ตในการใช้ Google แค่ตัวเดียว สามารถแตกความรู้ได้หลากหลาย ได้ใช้แอพพลิเคชั่นผ่านเว็บ Google ที่นอกจากใช้เพียง E-mail , ใช้ค้นหาความรู้ แต่ยังสามารถสร้างเว็บไซต์ พิมพ์เอกสาร ได้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้


▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲


 สัปดาห์ที่ 2  

〉ลักษณะของกิจกรรม

  1. การทำกิจกรรม infographic โดยใช้นวัตกรรมเมื่อไม่มีเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต เป็นการทำ infographic โดยใช้มือ
  2. รายงานการทำงานกลุ่มเกี่ยวกับเรื่อง เทคโนโลยีการศึกษามีความสำคัญอย่างไร ?
  3. ออกข้อสอบ จากที่เพื่อนๆรายงานตามหัวข้อต่างๆ เพื่อนำมาทำเป็นข้อสอบออนไลน์ ใน สัปดาห์ ถัดไป
  4. เลือกแอพลิเคชั่นของเพื่อนๆในกลุ่ม ออกมาทำ เป็น infographic ที่ทำให้ข้าใจง่ายขึ้น 

〉ทักษะ

   1. สามารถทำกิจกรรม infographic โดยใช้นวัตกรรมเมื่อไม่มีเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต เป็นการทำ infographic ได้เรียนรู้การออกแบบชิ้นงาน เมื่อมีชิ้นงานที่หลากหลายจะสามารถนำมารวบรวมอยู่ในงานเดียวกันอย่างลงตัว โดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ หรือเทคโนโลยี แต่เราสามารถใช้มือ และอุปกรณ์ต่างๆ มาออกแบบกิจกรรมได้
   2. ได้ทราบและรู้ถึงความรู้ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมต่างๆ และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการออกข้อสอบได้ และสามารถนำไปสร้างข้อสอบออนไลน์ได้หลากหลายรูปแบบ 
   3. ได้ทราบและเข้าใจถึงบทความวิชาการต่างๆ ที่จะต้องทำว่ามีขอบเขตเนื้อหาอะไรบ้าง และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร




〉ผลการเรียนรู้

     ในสัปดาห์ที่ 2 ได้เรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา ความเป็นมา ความสำคัญของเทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยที่เพื่อนๆ นำเสนอ และได้ออกแบบข้อสอบจากสิ่งที่เพื่อนได้นำเสนอ ในแต่ละหัวข้อ ได้เรียนรู้การใช้นวัตกรรม infographic โดยไม่ใช้นวัตกรรม คือการสร้างสรรค์กิจกรรมด้วยสองมือของเรานั่นเอง 

▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲


สัปดาห์ที่ 3 

〉ลักษณะของกิจกรรม

1. การออกแบบ site ที่เป็นเว็บไซต์ขนาดย่อมๆของตนเอง โดยมีความต่างกับ Blog ก็คือ เข้าไปแสดงความคิดเห็นไม่ได้

2. การออกแบบข้อสอบออนไลน์ โดยใช้ Google form ซึ่งประโยชน์ของมัน ยังมีอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำแบบสอบถาม หรือ การเลือกรายการต่างๆ

3. การเพิ่มบุ๊กมาร์กแอพพลิเคชั่น ลงไปในหน้า Chrome ของเรา

4. เทคนิคการตกแต่งและออกแบบการทำ Site โดยใช้เมนูการตกแต่งต่างๆ


〉ทักษะ

1. สามารถทำออกแบบ Google site ของตนเองได้ และเห็นข้อแตกต่างระหว่าง Blog กับ Google site

2. ได้ทราบและรู้ถึงความรู้ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมต่างๆ และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการออกข้อสอบออนไลน์ โดยใช้ Google form

3. สามารถใช้บุ๊คมาร์ก แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนวิชาของตนได้



〉ผลการเรียนรู้

      จากการเรียนในสัปดาห์ที่ 3 ได้เรียนรู้การสร้าง Google site ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของ Google ซึ่งสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ สร้างเว็บไซต์ของตนเอง หรือองค์กรได้ Google site ใหม่ มีความแตกต่างกับ Google site เดิม อย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่ยุ่งยากสามารถใส่ข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น
      การออกแบบข้อสอบโดยใช้ Google form ที่สามารถออกแบบข้อสอบออนไลน์ได้สะดวก และป้องกันการลอกกันของนักเรียน นักศึกษาได้ และได้ทราบถึงคะแนนสอบที่ไม่ต้องใช้การคำนวณและตรวจข้อสอบให้ยุ่งยาก
      การใช้บุ๊คมาร์กของแอพพลิเคชั่นใน Google Chrome เพื่ออำนวยความสะดวกในการท่องโลกอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และอีกทั้งยังได้ทราบถึงแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนของเราอีกด้วย


▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲


สัปดาห์ที่  4  


〉ลักษณะของกิจกรรม
     1. การสร้าง และออกแบบ Infographic ด้วย www.canva.com  โดยวิทยากรภายนอก (อาจารย์ปู)
     2. การสร้าง E-Book ด้วย  Microsoft Power Point โดยวิทยากร
     3. ออกแบบ Infographic ของตนเอง ในหัวข้อ “หน้าฝนนี้ เที่ยวที่ไหน
     4. ออกแบบ E-Book ของตนเอง โดยนำข้อมูล เนื้อหา และบทเรียนของรายวิชาตนเอง

〉ทักษะ
     1. มีทักษะความรู้ในเรื่องของ Infographic และการใช้แอพพลิเคชั่น หรือโปรแกรมต่างๆ ที่สามารถออกแบบ Infographic ของตนเอง
     2. ได้เรียนรู้การออกแบบ การตกแต่งสีสันในภาพ การไล่สีตัวอักษรให้เหมาะกับภาพพื้นหลัง
     3. เพิ่มทักษะการสร้าง Infographic โดยอาศัย ADDIE เข้ามาช่วย
     4. มีความรู้เรื่องการสร้าง E-Book ในการจัดการเรียนการสอน

〉ผลการเรียนรู้ 
      สามารถนำผลการเรียนรู้ที่ได้ในวันนี้ ไปประยุกต์และปรับใช้ให้เข้ากับรายวิชาของตนเองได้ และมีความรู้ในเรื่องการออกแบบ การมีความคิดสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ของตนเอง เป็นการเปิดโอกาสทางการเรียนรู้ได้อย่างมาก
▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲

สัปดาห์ที่  5  


〉ลักษณะของกิจกรรม
     1. ได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับครูในศตวรรษที่ 21 ทักษะที่ควรมีในศตวรรษที่ 21
     2. ได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย 4.0 ในด้านการพัฒนาการศึกษา
     
〉ทักษะ
     1. เรียนรู้ความสำคัญของครูในศตวรรษที่ 21 และ ไทยแลนด์ 4.0
     2. ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มและจัดทำ Infographic

〉ผลการเรียนรู้ 
1.    จัดทำแผนผังความคิดในรูปแบบ Infographic เรื่อง การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 และการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา
2.   มีความรู้เรื่องการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับทักษะต่างๆ และสามารถนำทฤษฎีของบลูม ไปปรับใช้ในการเรียนการสอน

▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲

สัปดาห์ที่ 6


〉ลักษณะของกิจกรรม
     1. การจัดทำสื่อ และการประเมินสื่อ
     2. นำเสนอหัวข้องานวิจัยในชั้นเรียน เพื่อไปปรับใช้ในโรงเรียน

〉ทักษะ
     1. ความรู้เรื่องการประเมินสื่อ
     2. ความเข้าใจในการใช้สูตร และวิธีการต่างๆ ในการประเมิน
     3. การคิดหัวข้อวิจัยในชั้นเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน

〉ผลการเรียนรู้ 
1.    มีความรู้ความเข้ามากขึ้นในการจัดทำสื่อ และการประเมินสื่อโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่ใช้สื่อ
2.   ได้นำหัวข้อวิจัยในชั้นเรียน ปรึกษาอาจารย์ เพื่อจัดทำวิจัยในชั้นเรียนให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3.   ได้รู้ข้อดีข้อเสียต่างๆ เมื่อทำการวิจัยแล้วนำสื่อที่เกี่ยวข้องไปให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน และนำมาแก้ไขและปรับใช้ต่อไป



 ▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲

สัปดาห์ที่ 7


〉ลักษณะของกิจกรรม

1.    เรียนรู้ 10 เทคโนโลยีที่จะมาเป็นหัวใจของธุรกิจองค์กรปี 2017 โดย GARTNER

2.    เลือก 1 ในหัวข้อเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการสอนนำเสนอหน้าชั้นเรียน

3.    บอกถึงข้อดี ข้อเสีย ของเทคโนโลยีที่นำเสนอ

     4. เลือก PL (Personal Learning) ในส่วนของแอพลิเคชันบนมือถือ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในการจัดกิจกรรมการสอนได้ และจัดทำเป็นแผนผังความคิดตามความเข้าใจของตนเอง

〉ทักษะ
     1. ได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้แอพลิเคชันต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อการจัดการเรียนการสอนได้
     2. ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แอพลิเคชันของเพื่อนๆ
     3. ได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ 10 เทคโนโลยีที่จะมาเป็นหัวใจของธุรกิจองค์กรปี 2017 โดย GARTNER

〉ผลการเรียนรู้ 
       สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้กับการจัดการเรียนการสอนของตนเองได้ ได้รับความรู้ความเข้าใจในการเกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในปี 2017 เป็นการกระตุ้นความสนใจในการที่จะอยากศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ในเรื่องที่สนใจและเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น การใช้ VR ในการจัดการสอน การใช้แอพลิเคชัน ที่แปลกใหม่ สามารถนำไปสอนนักเรียนได้ เป็นต้น เหล่านี้ล้วนทำให้ครูและนักเรียนเกิดทักษะใหม่ๆ มากมาย เป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต


 ▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲

สัปดาห์ที่ 8


〉ลักษณะของกิจกรรม
      นักศึกษานำเสนอนวัตกรรม ที่นำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาของตนเอง

〉ทักษะ
   การได้รับความรู้ ทักษะ และการนำนวัตกรรมไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน

〉ผลการเรียนรู้ 
       ได้เรียนรู้การใช้นวัตกรรมที่แปลกใหม่ ของเพื่อนๆ เช่น Google site ในการจัดการเรียนการสอน การสอดแทรกความรู้ต่างๆ ลงใน site การใช้ E-Book การใช้ Power Point การใช้ Blog เป็นต้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น และสามารถนำมาจัดทำเป็นนวัตกรรมของตนเองได้ อีกทั้ง เพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบท หรือรายวิชาของตนเองได้อีกเช่นกัน

 ▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲▲













Week 8

Week 7


 10 เทคโนโลยีที่จะมาป็นหัวใจของธุรกิจองค์กรปี 2017 โดย Gartner 

Week 6

     สื่อการสอน   

Week 5

gif 动物 小鸟 可爱 卖萌 蓝黑小鸡 鸡  

Week 4

Week 3

 ...การสร้างเว็บด้วย Google Site...

        Google Sites คือเว็บไซต์ของ Google ที่ให้บริการสร้าง
เว็บไซต์ฟรี ซึ่งเราสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย   
โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งลักษณะของเว็บไซต์ได้ตามความต้องการ
สามารถรวบรวมความหลากหลายของข้อมูลไว้ในที่เดียวได้ เช่น วิดีโอ
ปฏิทินการนําเสนอเอกสารหรือสิ่งที่แนบ และข้อความ รวมไปถึงความ
สามารถในการกําหนดความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ด้วย

 



ข้อแตกต่างการใช้ google site กับ blogger

                ก่อนที่จะทราบความแตกต่างการใช้งานของ Google Site และ Blogger   มารู้จักก่อนจะแยกความแตกต่างดังจะกล่าวต่อไปนี้   

(1.)  ในส่วนของ  Google Site  

 



 Google Site เป็นบริการหนึ่งของ Google ที่ให้พื้นที่กับผู้ใช้บริการในการสร้างเว็บไซต์ส่วนตัว ในการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ที่ต้องการ โดยให้ URL เป็น http://sites.google.com/site/...(ชื่อที่เราต้องการ)... 
    เช่น http://sites.google.com/site/demonmhon/
    ความพิเศษของ Google Site มีส่วนในการจัดเนื้อหาให้ ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการสร้างเว็บไซต์ ก็สามารถมีหน้าเว็บ ใส่เนื้อหาได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก เพราะการสร้างเว็บไซต์ตั้งแต่เริ่มต้นนั้นต้องรู้หลายเรื่องครับ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบหน้าเว็บ, HTML ฯลฯ
    ใช้บริการได้อย่างไร ?
    หากคุณมีบัญชีของ Google อยู่แล้ว (บัญชีเดียวกับ GMail) ก็สามารถสมัครเข้าใช้บริการได้ ที่ http://sites.google.com/ ไม่มีค่าใช้จ่าย
                 การใส่เนื้อหาก็ไม่ต่างอะไรกับเครื่องมือ Office มากนักเช่น พิมพ์ข้อความลงไป ใส่สี ปรับขนาดตัวอักษร แทรกรูปครับ พวกเครื่องไม่เครื่องมือในหน้าก็มีความชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วครับ
                หากมีข้อสงสัย อื่นๆ น่าจะเป็น ... จะใส่ Link อย่างไร ใส่รูปภาพอย่างไร ตั้งต่าอะไรอย่างไน ซึ่งอยากให้ตั้งคำถามเฉพาะๆ ไปนะครับ ตอบละเอียดคงไม่จบในครั้งเดียว ลายละเอียดมันเยอะมากจนน่าจะพอคำเป็นหนังสือคู่มือย่อมๆ ได้เลย 

บริการ Google sites คือบริการฟรีเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถ

                 - สร้างเว็บไซต์ได้ง่าย โดยไม่ต้องมีความรู้ HTML
                 - ใส่รูปภาพ ข้อความ
                 - สร้างไฟล์แนบให้ Download ได้
                - กำหนดได้ว่าจะให้ใครเข้ามาดูได้บ้าง
                - ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้


(2.)ในส่วนของ  Blogger





       ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง หรือ เรียกง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ที่มีรูปแบบเนื้อหาเป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วยบล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ)และ log (ปูมบันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง 

ประโยชน์ของบล็อก
ประโยชน์ของบล็อกในการเรียน
1.ส่งงานได้รวดเร็ว
2.เก็บข้อมูลไว้ศึกษาทีหลังได้
3.ให้ผู้อื่นศึกษาต่อได้
4.สามารถมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นความรู้ใหม่ๆได้ด้วย

(3.)ข้อแตกต่างการใช้งาน 
ประการที่หนึ่ง  
             google site วัตถุประสงค์คือ ให้ผู้ใช้งาน gmail สามารถทำหน้าเว็บเพจของตัวเองอะไรก็ได้ขึ้นมา โดยเน้นที่ความง่าย มี app. ให้ใช้อย่างสะดวกโดยไม่จำเป็นต้องรู้เรื่อง html

              แต่กรณีของ blogger เน้นไปที่การทำ blog ซึ่งมีลักษณะเป็นเรื่องราวที่มีลักษณะต่อเนื่อง หรือเน้นไปที่คอนเทนต์จากเจ้าของบล็อกค่ะ ดังนั้นการเลือกใช้งานคงดูเรื่องวัตถุประสงค์การใช้เป็นหลัก


ประการที่สอง  (แยกพิจารณาดังนี้)
Google site จะช่วยให้เริ่มต้นสร้างเว็บอย่าง ง่ายที่สุด และเราสามารถสร้างหน้าตาเว็บและสามารถเลือก หรือตกแต่งได้อย่างมืออาชีพ ในพื้นที่มากถึง 100 เม็ก เริ่มต้นได้ง่ายๆ
กำหนดชื่อไซต์ และสร้างหน้าเว็บแรก
สร้างหน้าเว็บรองลองไป ไม่ต้องกังวล โปรแกรมจะสร้างเมนูให้อัตโนมัติ หรือจัดการภายหลังก็ได้
เลือกประเภทหน้าเว็บที่คุณจะสร้าง: หน้าเว็บธรรมดาแบบประกาศตู้เก็บไฟล์ เป็นต้น
ใส่ชื่อไซต์ให้เรียบร้อยด้วย
กำหนดว่าจะเก็บหน้าที่คุณสร้างขึ้น ไว้ดูคนเดียว หรือให้คนอื่นเข้าดูได้
เนื้อหาที่คุณสร้างขึ้น จะถูกบรรจุไว้ในฐานข้อมูลการค้นหาในลำดับต่อไป

 Blogger
1.ใช้งานง่าย แค่มีบัญชีอีเมล์ของ Google นั่นก็คือ Gmail คุณก็สามารถสร้าง Blog ออกมาได้นับไม่ถ้วน
2.ปรับแต่งง่าย มีเทมเพลต พร้อมทั้ง Gadget มากมายให้เลือกใช้ เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวของคุณ
3.ไม่ล่ม แน่นอนครับก็มี Google ดูแลอยู่นี่นา
4.ข้อสุดท้ายสำคัญที่สุด สามารถนำมาติดโฆษณาหารายได้จาก Google Adsense ได้อย่างง่าย ๆ หลาย ๆ คนเอามันมาเป็นสะพานเพื่อสมัคร Google Adsense


📢📢เชิญเยี่ยมชม google site ของเราได้นะคะ🐤🐤


คลิกลิ้งก์ด้านล่างจ้า
🌻🌻

อ้างอิง





💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜



       การที่จะเข้าไปใช้งาน Google Form ได้ ต้องมีบัญชี Google ก่อน ซึ่งถ้าเรามีบัญชี Google เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่ https://docs.google.com/forms และทำการลงชื่อเข้าใช้งาน จะปรากฏหน้าต่างแสดงแบบฟอร์มที่เรามีอยู่ ดังรูปภาพ 


รูปภาพ  หลังจากลงชื่อเข้าใช้ใน https://docs.google.com/forms
จากที่เห็นในรูปภาพด้านบน คือเรายังไม่มีแบบฟอร์มอยู่เลย หลังจากเข้ามาที่หน้าต่างแสดงแบบฟอร์มของเราแล้ว ให้กดปุ่ม สร้างแบบฟอร์มใหม่ แล้วเริ่มขั้นตอนสร้างแบบฟอร์มได้เลย

เครื่องมือต่างๆ ในการใช้งาน



 รูปภาพ แนะนำแถบเมนูด้านบน และแถบเครื่องมือด้านข้าง
เนื่องจากความสามารถของปุ่มต่างๆ ใน แถบเมนูด้านบน ส่วนใหญ่จะถูกใช้ทำหลังจากสร้างแบบฟอร์มเสร็จ เพราะฉนั้นตอนนี้ เราจะมาพูดถึงบริเวณ แถบเครื่องมือด้านข้าง กันก่อน ซึ่งแถบเครื่องมือนี้มีไว้สำหรับสร้างคำถามต่างๆ ในแบบฟอร์ม


เพิ่มคำถาม (Add question)
ใช้สำหรับเพิ่มคำถามในรูปแบบต่างๆ คำถามแต่ละรูปแบบจะมีลักษณะและความสามารถที่แตกต่างกัน
เพิ่มชื่อและรายละเอียด (Add title and description)
สำหรับเพิ่มแถบป้ายชื่อพร้อมรายละเอียดที่ต้องการแจ้งให้ทราบ
เหมาะสำหรับใช้ในการแบ่งส่วน เช่น ส่วนที่ 1: ข้อมูลส่วนตัว / ส่วนที่ 2: การประเมิณ

เพิ่มรูปภาพ (Add image)
สำหรับแทรกรูปภาพลงไปในแบบฟอร์ม
สามารถแทรกได้จากรูปในเครื่องของเรา หรืออ้างอิงรูปที่มีอยู่บน Internet แล้วก็ได้
เพิ่มรูปภาพ (Add image)
สำหรับแทรกคลิปวิดีโอลงไปในแบบฟอร์ม
สามารถเรียกวิดีโอจากบัญชี YouTube ของเรา หรือค้นหาจาก YouTube ผู้อื่นก็ได้
เพิ่มส่วน (Add section)
ใช้ในการแบ่งหน้า และยังสามารถใช้แยกส่วนของแบบสอบถามออกจากกันได้อีกด้วย




การนำ Google Forที่สร้างสำเร็จแล้วไปใช้งาน

หลังจากที่สร้างแบบสอบถามหรือข้อสอบเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลานำมันไปใช้งานต่อ
โดยเราสามารถจัดการได้ด้วยการกดที่ ปุ่ม ส่ง [Send]
ซึ่งเราสามารถส่งไปใช้งานได้ 3 รูปแบบดังนี้
  • การส่งฟอร์มต่อเป็นลิงค์
  • การแนบฟอร์มลงไปในอีเมล
  • การแทรกฟอร์มลงบนเว็บเพจที่เราต้องการ

การส่งฟอร์มต่อเป็นลิงค์ [SEND VIA LINK]

เป็นการส่งแบบฟอร์มอย่างง่าย โดยคัดลอกลิงค์ไปให้ผู้ตอบผ่านทางไหนก็ได้ เช่น ส่งผ่านโปรแกรมพูดคุยต่างๆ ที่สามารถส่งข้อความหากันได้
พอผู้ตอบได้รับลิงค์ก็สามารถเข้าผ่านลิงค์มาทำฟอร์มได้ทันที
รูปภาพ การส่งฟอร์มต่อเป็นลิงค์

การส่งฟอร์มต่อผ่านอีเมล [SEND VIA EMAIL]

รูปภาพ  กรอกข้อมูลของอีเมลและรายละเอียด ที่เราต้องการส่งไปยังผู้ตอบแบบสอบถาม

รูปภาพ  การส่งฟอร์มต่อผ่านอีเมล โดยให้เพียงลิงค์ตรงมายังแบบฟอร์ม
นอกจากนี้เพียงแค่เราติ๊กเลือก รวมฟอร์มในอีเมล เท่านี้เราก็จะสามารถแนบแบบฟอร์มไปกับอีเมลได้ทันที

รูปภาพ การส่งฟอร์มต่อผ่านอีเมล โดยแนบแบบฟอร์มลงในอีเมล (ผู้ตอบสามารถทำได้จากในอีเมลเลย)

การฝังฟอร์มลงเว็บเพจ [SEND VIA EMBED HTML]

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบบฟอร์มที่ไม่เป็นความลับอะไรมาก และมีเว็บเพจเป็นของตนเอง การนำฟอร์มฝังลงไปบนเว็บเพจก็เป็นช่องทางที่ดีในการเพิ่มผู้ร่วมทำแบบทดสอบได้อย่างดี
รูปภาพ  การส่งฟอร์มด้วยวิธีการฝังฟอร์มลงเว็บเพจ
โดย Code ที่ทาง Google Form จะให้เรามา คือ iframe code ซึ่งเราเพียงแค่คัดลอกไปวางไว้ใน Code ของเว็บเพจบริเวณที่เราต้องการแสดง ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น ลองเซฟและเปิดเว็บเพจของเราดูได้ทันที จะเห็นฟอร์มปรากฏอยู่บนเว็บเพจเรียบร้อย

รูปภาพ การส่งฟอร์มต่อผ่านอีเมล โดยให้เพียงลิงค์ตรงมายังแบบฟอร์ม


🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑🍑
📢📢เชิญทำข้อสอบที่สร้างจาก Google Form ของเราได้นะคะ🐤🐤


คลิกลิ้งก์ด้านล่างจ้า
🌻🌻




อ้างอิง

🌸ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม🌸

week 1